ประกันมรดกเป็นสัญญาประกันภัยที่ช่วยให้คุณสามารถส่งผ่านทรัพย์สินหรือสิทธิทางการเงินให้กับบุคคลที่คุณเลือกได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการมรดกหรือเสียภาษีมรดก เป็นหนึ่งวิธีและตัวเลือกการวางแผนทางการเงินที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เราจะมาดูกันว่าประกันมรดกคืออะไร มีประเภทอะไรบ้าง และมีข้อดีและข้อเสียอะไร รวมถึงเหตุผลที่คุณควรมีประกันประเภทนี้ไว้เพื่อปกป้องการลงทุนของคุณ
ประกันมรดกคืออะไร?
ประกันมรดกเป็นสัญญาประกันภัยที่คุณสามารถทำกับบริษัทประกันภัยได้ โดยจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามที่กำหนด และเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิต บริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินประกันภัยให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่ได้ระบุไว้ตามกรมธรรม์ โดยที่ผู้รับผลประโยชน์สามารถเป็นบุคคลใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน และยังสามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ได้ตลอดเวลา โดยที่เงินประกันภัยที่ผู้รับผลประโยชน์ได้รับไม่ต้องเสียภาษีมรดก ดังนั้นประกันประเภทนี้เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการส่งผ่านทรัพย์สินหรือสิทธิทางการเงินให้กับบุคคลที่ผู้ทำประกันต้องการ
ประกันมรดกมีประเภทอะไรบ้าง?
ประกันมรดกมีหลายประเภท แต่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้ คือ
1. ประกันแบบชั่วระยะเวลา เป็นประกันภัยที่มีระยะเวลาคุ้มครองกำหนดไว้ เช่น 5 ปี, 10 ปี หรือ 20 ปี โดยที่ผู้ทำประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามที่กำหนด และเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด สัญญาประกันภัยจะครบอายุ หากเกิดเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินประกันภัย แต่หากยังมีชีวิตอยู่หลังจากสัญญาหมดอายุ ผู้รับผลประโยชน์จะไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ เลย ข้อดีคือ เบี้ยประกันภัยจะถูกกว่าประกันแบบถาวร และสามารถปรับเปลี่ยนระยะเวลาได้ตามความต้องการ แต่ข้อเสียคือ จะไม่มั่นใจได้เลยว่าผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินประกันภัยหรือไม่ และอาจต้องชำระเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้นหากต่ออายุสัญญา
2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันภัยที่มีระยะเวลาคุ้มครองแบบระยะยาว โดยจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนด และมีความคุ้มครองไปตลอดชีวิต หรืออายุ 90 ปีขึ้นไป เมื่อเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินประกันภัย ซึ่งมีข้อดีคือ คุณจะมีความมั่นใจว่าผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินประกันภัยเมื่อคุณเสียชีวิต และยังสามารถสะสมมูลค่าเงินประกันภัยได้ แต่ข้อเสียคือ เบี้ยประกันภัยจะแพงกว่าประกันแบบชั่วคราว และยังอาจต้องชำระเบี้ยประกันภัยจนกว่าจะเสียชีวิต
ซึ่งประกันมรดกเองก็มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำด้วยเช่นกัน
โดยที่ข้อดีของประกันประเภทนี้ก็คือ
1. เป็นการส่งต่อมรดกแบบไม่ต้องเสียภาษีมรดก
2. ช่วยปกป้องครอบครัวหรือผู้ที่คุณห่วงใยได้ โดยให้เงินประกันภัยเป็นทุนทรัพย์หลังจากคุณเสียชีวิต
และในส่วนของข้อเสียของประกันมรดกคือ
1. คุณจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินระยะยาว
2. คุณอาจไม่ได้รับประโยชน์จากประกัน หากคุณเลือกประกันแบบชั่วระยะเวลา และคุณยังมีชีวิตอยู่หลังจากสัญญาหมดอายุ
สรุปประกันมรดกจำเป็นหรือไม่ สำคัญแค่ไหนกับการลงทุน
ถ้าถามว่าประกันมรดกจำเป็นหรือไม่ คำตอบจะขึ้นอยู่กับว่า คุณมีความต้องการทางการเงินและมีการวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ถ้าคุณมีคนที่ต้องดูแล เช่น คู่สมรส บุตร หรือพ่อแม่วัยชรา คุณอาจต้องการมีประกันมรดกเพื่อให้คนเหล่านี้มีความปลอดภัยหากคุณต้องจากไปก่อนวัยอันควร ประกันมรดกจะเป็นวิธีที่ดีในการส่งผ่านทรัพย์สินของคุณให้กับคนที่คุณรัก
ในส่วนของการลงทุนประกันนี้สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนระยะยาวของคุณได้ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้ทุกปี สามารถส่งผ่านทรัพย์สินของคุณโดยไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียเวลากับกระบวนการทางกฎหมาย นอกจากนี้ ประกันมรดกยังเป็นประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ จำนวนเงินประกัน หรือระยะเวลาการชำระเบี้ยได้ตามความต้องการ
เมื่อเราลงทุนเพื่อความมั่นคงของอนาคต ประกันมรดกจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการลงทุน ที่ทุกท่านควรมีในพอร์ต โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีการลงทุนเพื่อคนที่คุณรัก จะทำให้สามารถสร้างหลักประกันเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ทันที และถูกส่งต่อให้คนที่คุณต้องการได้ตามตั้งใจ